ท้องเสียแล้วทำยังไงดี รวมคำถามยอดฮิตสำหรับคนท้องเสีย

1706 จำนวนผู้เข้าชม  | 

diarrhea-what-to-do

ท้องเสียท้องร่วงคือการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป มีสาเหตุจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่อาหารบูดเสียง่าย ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ หรือมีสาเหตุมาจากการแพ้อาหาร การรับประทานยาบางชนิด การติดเชื้อ หรือโรคอื่นๆ

เมื่อท้องเสียท้องร่วงแล้ว คุณผู้อ่านอาจจะเกิดข้อสงสัยตามมาว่า ควรจะรับประทาน หรืองดรับประทานอาหารแบบไหน ถ้าหากต้องทานยา ควรเป็นยาแบบไหน แล้วถ้าคนท้องเสียเป็นทารกหรือเด็ก ผู้ปกครองควรจะทำอย่างไรดี ทีมงาน CKKQEUIPMED จึงรวบรวมคำถามยอดฮิตมาตอบในบทความนี้ครับ

สารบัญ

ท้องเสียกินอะไรดี

เมื่อท้องเสีย หลายคนอาจจะเข้าใจว่าควรงดรับประทานอาหาร ซึ่งไม่จำเป็น ร่างกายยังคงต้องการสารอาหารจำเป็น การขาดเกลือแร่และน้ำจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ คนที่มีอาการท้องเสียจึงควรบริโภคอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ตัวอย่างเช่น

  • น้ำ ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากการขับถ่าย
  • ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่ละลายน้ำ หรือผสมเองโดยใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา ผสมน้ำต้มสุกประมาณ 750 ซีซี
  • รับประทานอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก เพราะจะย่อยได้ง่าย

นอกจากนี้ ยังสามารถรับประทานเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อปลา ไข่สุก รวมถึงผักสุก เช่น เห็ด แครอท ที่ไม่ทำให้เกิดแก๊ส

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยที่ท้องเสียเรื้อรัง ควรค้นหาว่า สาเหตุที่ทำให้ท้องเสียคืออะไร ถ้าหากมีสาเหตุมาจากอาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนั้น แต่การกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีไขมันต่ำ ก็มักจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียแบบเรื้อรังให้ดีขึ้น

ท้องเสียกินยาอะไร

เมื่อท้องเสีย สามารถรับประทานผงเกลือแร่ผสมน้ำหรือยาดังต่อไปนี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ

ยาผงถ่าน หรือยาคาร์บอน

ยาชนิดนี้มีผงถ่านเป็นส่วนประกอบ จึงอาจจะช่วยดูดซับสารพิษ บรรเทาอาการแน่นท้องและการถ่ายเหลว แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสีย เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถรับประทานเป็นยาหยุดถ่ายได้

นอกจากนั้น ยาผงถ่านไม่ควรรับประทานร่วมกับยาชนิดอื่น เพราะอาจจะดูดซับยาเหล่านั้นเข้าไปด้วย ควรเว้นระยะเวลา 2 ชั่วโมงระหว่างการรับประทานยาชนิดอื่น กับยาผงถ่าน

ยาโลเพอราไมด์

ยาชนิดนี้ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ โดยตัวยาจะทำให้ทางเดินอาหารขับสารคัดหลังน้อยลงและลดการเคลื่อนไหว รวมทั้งทำให้กลั้นอุจจาระได้มากขึ้น แต่ถ้าเป็นการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ควรหลีกเลี่ยงยานี้เพราะจะทำให้ของเสียหรือเชื้อโรคคงอยู่ในทางเดินอาหารเป็นระยะเวลานานกว่าเดิม จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

นอกจากนี้ ยาโลเพอราไมด์ไม่ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี และมีรายงานว่า ยาโลเพอราไมด์ หากรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อหัวใจได้ จึงไม่ควรรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ

ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่

โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการท้องเสียมักจะบรรเทาได้เองภายใน 5-7 วัน โดยไม่ต้องรับประทานยาหรือรับการรักษา แต่ถ้าหากอาการยังคงอยู่หลังจากผ่านไปหลายวัน (2 วันสำหรับเด็ก หรือ 5 วันสำหรับผู้ใหญ่) หรือมีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายท้องเป็นจำนวนมากและไม่หยุด ถ่ายเป็นมูกเลือด มีไข้ ก็ควรรีบพบแพทย์

ท้องเสียห้ามกินอะไร

เมื่อท้องเสีย มีอาหารบางประเภทที่ผู้ป่วยควรจะเลี่ยง เพราะเสี่ยงทำให้ระบบการย่อยอาหารฟื้นตัวช้าลง หรือมีอาการท้องเสียรุนแรงขึ้น เช่น

  • อาหารรสจัด เพราะอาจทำให้ระบบย่อยอาหารระคายเคือง
  • ของทอด ของมัน หรืออาหารที่มีไขมันเยอะ เพราะระบบย่อยอาหารย่อยไขมันและน้ำมันได้ยาก (อาจกินของต้ม นึ่ง อบ หรืออื่นๆ แทน)
  • ของหมักดอง
  • นม
  • ผักดิบ ผักที่อาจทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ (เช่น ถั่ว และผักใบเขียว) ผลไม้
  • น้ำผลไม้
  • แอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีคาเฟอีน

เด็กท้องเสียทำยังไงดี

เด็กมักจะท้องเสียบ่อยกว่าผู้ใหญ่ โดยอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสโรต้า ซึ่งพบได้บ่อยขึ้นเมื่อสภาพอากาศเย็นลง อาหารเป็นพิษ การแพ้อาหาร โรคชนิดต่างๆ หรือเกิดจากยา

เมื่อเด็กท้องเสีย ควรระวังไม่ให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายท้องบ่อยๆ ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำเป็นปริมาณมาก จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ

ในขณะเดียวกัน เด็กยังควรรับประทานอาหารโดยอาจแบ่งเป็นมื้อปริมาณน้อยย่อยๆ มากกว่า 3 มื้อ และอาจรับประทานอาหารย่อยง่ายเป็นหลัก เช่น ข้าวต้ม และควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ของมัน น้ำผลไม้ นม น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนขณะที่ยังท้องเสียอยู่

สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ควรใช้ยาหยุดถ่าย 

ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้

  • ท้องเสียรุนแรง หรืออาเจียนหนัก
  • ท้องเสียนานเกินกว่า 2-3 วัน
  • ถ่ายท้องหรืออาเจียนเป็นเลือด หรืออาเจียนเป็นสีเขียวหรือเหลืองแกมเขียว
  • มีไข้สูง
  • อื่นๆ เช่น ชัก มีผื่น

ทารกท้องเสียทำยังไงดี

ถ้าหากทารกถ่ายเป็นปริมาณมากกว่าปกติหรือถ่ายเหลว และบ่อยกว่าปกติ มักจะหมายความว่าทารกกำลังท้องเสีย ทารกมีโอกาสท้องเสียได้บ่อย โดยอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น

  • แม่ที่ให้นมเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน ทำให้ลักษณะนมแม่เปลี่ยนแปลงตาม และมีโอกาสทำให้ลูกท้องเสีย
  • ยาหรืออาหารเสริมที่แม่ที่ให้นมรับประทาน ก็มีโอกาสส่งผลกับนมและทำให้ทารกท้องเสียเช่นกัน
  • การเปลี่ยนสูตรนมผง
  • การแพ้นมวัว
  • การติดเชื้อหรือโรคอื่นๆ

หากทารกท้องเสีย ก็ยังควรให้ดื่มนมแม่ตามปกติ ส่วนทารกที่ดื่มนมขวด ก็ให้ดื่มตามปกติ เพื่อให้ทารกไม่ขาดน้ำ

ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมของทารกบ่อยครั้ง เพื่อลดโอกาสที่ทารกจะเกิดผื่นผ้าอ้อม

หากทารกมีอาการดังนี้ ควรพาไปพบแพทย์ทันที

  • สิ่งที่ทารกขับถ่ายออกมามีสีขาวหรือแดง หรือเป็นเลือด
  • อาเจียนรุนแรง
  • มีผื่น หรือไข้
  • อื่นๆ เช่น น้ำหนักลด

อ้างอิง

  1. https://www.healthline.com/health/what-to-eat-when-you-have-diarrhea
  2. https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1033
  3. https://www.nhs.uk/conditions/diarrhoea-and-vomiting/
  4. https://medlineplus.gov/ency/patientinstructions/000693.htm
  5. https://www.webmd.com/children/guide/diarrhea-treatment
  6. https://pharmacy.mahidol.ac.th/DIC/news_week_full.php?id=1429
  7. http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=6&cat=73&content_id=1893
  8. https://www.thaihealth.or.th/Content/43567-อาหารสำหรับผู้ที่ท้องเสีย.html
  9. https://www.healthline.com/health/baby/baby-diarrhea

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้